เครื่องหมายในภาษาคอมพิวเตอร์
เครื่องหมายในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ภาษาคอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจความหมาย และสามารถทำงานได้นั้น จะถูกแบ่งออกตามประเภทของการใช้งานและเหตุการณ์ เช่น ต้องการเปรียบเทียบนิพจน์ว่าเป็นจริงหรือเท็จ ก็จะใช้เครื่องหมายทางตรรกศาสตร์เข้ามาเปรียบเทียบ หรือหากต้องการเปรียบเทียบนิพจน์หรือค่า 2 ค่าว่ามากกว่าหรือน้อยกว่า ก็จะใช้เครื่องหมายเปรียบเทียบ มากกว่า (>) หรือน้อยกว่า (<) เป็นต้น ดังนั้นเครื่องหมายในภาษาคอมพิวเตอร์ จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ
1. |
เครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ |
2. |
เครื่องหมายเปรียบเทียบ |
3. |
เครื่องหมายทางตรรกศาสตร์ |
——————————————————————————————————————————
1. เครื่องหมายทางคณิตศาสตร์
เครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ นับเป็นเครื่องหมายที่มีความคุ้นเคยและมีการใช้งานบ่อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการคำนวณพื้นฐาน เช่น บวก ลบ คูณ และหาร เครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ที่สามารถใช้งานได้ในการเขียนโปรแกรมภาษาซี ดังตารางที่ 1
ตารางที่ 1 เครื่องหมายทางคณิตศาสตร์
เครื่องหมาย |
เนินการ |
ความหมาย และตัวอย่างการใช้งาน |
+ |
บวก |
ใช้เพื่อบวก เช่น a + b |
- |
ลบ |
ใช้เพื่อลบ เช่น a – b |
* |
คูณ |
ใช้เพื่อคูณ เช่น a * b |
/ |
หาร |
ใช้เพื่อหาร เช่น a / b |
% |
หารแบบเอาเศษ
(Modulo) |
ใช้เพื่อหารแบบเอาเศษที่เหลือ เช่น a % b |
ตัวอย่าง กำหนดให้กับนิพจน์และผลลัพธ์ที่ได้ โดยในทีนี้กำหนดให้ตัวแปร i และ j มีชนิดข้อมูลเป็นเลขจำนวนเต็ม และตัวแปร j ถูกกำหนดให้มีค่าเท่ากับ 5
นิพจน์ |
ผลลัพธ์ i |
i = i + j |
10 |
i = j - 2 |
3 |
i = 2 * j |
10 |
i = j / 2 |
2 |
i = i % 2 |
1 |
นอกจากนี้ ในภาษาซียังมีเครื่องหมายที่ใช้ในทางคณิตศาสตร์อื่น ๆ อีก เพื่อใช้ในการเพิ่ม
หรือลดค่าของตัวแปร ซึ่งสามารถแบ่งตามการใช้งานได้หลากหลายวิธี ดังตารางที่ 2
ตารางที่ 2 เครื่องหมายทางคณิตศาสตร์เพิ่มเติม
เครื่องหมาย |
ดำเนินการ |
ความหมาย และตัวอย่างการใช้งาน |
++ |
เพิ่มค่าทีละ 1 |
ใช้เพื่อเพิ่มค่าอีก 1 ให้กับตัวแปร เช่น a = b++
หากตัว แปร b = 5 ค่าของตัวแปร a จะเท่ากับ 6 |
-- |
ลดค่าทีละ 1 |
ใช้เพื่อลดค่าอีก 1 ให้กับตัวแปร เช่น a = b--
หากตัว แปร b = 5 ค่าของตัวแปร a จะเท่ากับ 4 |
+= |
บวกค่าด้วยตัวแปร |
เช่น a += b คือ การบวกค่าตัวแปร a ด้วยตัวแปร b |
-= |
ลดค่าด้วยตัวแปร |
เช่น a -= b คือ การลดค่าตัวแปร a ด้วยตัวแปร b |
*= |
คูณค่าด้วยตัวแปร |
เช่น a *= b คือ การคูณค่าตัวแปร a ด้วยตัวแปร b |
/= |
หารค่าด้วยตัวแปร |
เช่น a /= b คือ การหารค่าตัวแปร a ด้วยตัวแปร b |
%= |
หารแบบเอาเศษ ด้วยตัวแปร |
เช่น a %= b คือ การหารแบบเอาเศษค่าตัวแปร a
ด้วยตัวแปร b |
ตัวอย่าง กำหนดให้ i และ j เป็นตัวแปรชนิดเลขจำนวนเต็ม มีค่าเท่ากับ 5 และ 7 ตามลำดับ ส่วนตัวแปร f และ g เป็นตัวแปรชนิดเลขจำนวนจริง มีค่าเท่ากับ 5.5 และ -.325 ตามลำดับ และต่อไปนี้เป็นนิพจน์ในรูปแบบต่าง ๆ และผลลัพธ์ที่ได้ ทั้งนี้แต่ละนิพจน์ให้ใช้ค่าตัวแปรเริ่มต้นตามที่กล่าวมา
นิพจน์ |
นิพจน์ที่เขียนในรูปแบบทั่วไป |
ผลลัพธ์ |
i += 5 |
i = i +5 |
10 |
f -= g |
f = f - g |
8.75 |
j *= (i - 3) |
j = j * (i - 3) |
14 |
f /=3 |
f = f / 3 |
1.833333 |
i % = (j - 2) |
i = i % (j - 2) |
0 |
——————————————————————————————————————————
2. เครื่องหมายเปรียบเทียบ
เครื่องหมายการเปรียบเทียบ เป็นเครื่องหมายที่มีความสำคัญอีกเช่นกัน เพื่อเปรียบเทียบค่าของตัวแปรตั้งแต่ 2 ค่าขึ้นไป โดยผลลัพธ์จากการเปรียบเทียบจะได้เป็นค่าจริง (True) หรือ เท็จ (False)
โดยเครื่องหมายในการเปรียบเทียบ ดังตารางที่ 3
ตารางที่ 3 เครื่องหมายการเปรียบเทียบ
เครื่องหมาย |
การเปรียบเทียบ |
ความหมาย และตัวอย่างการใช้งาน |
== |
เท่ากับ |
ตัวอย่าง a == b เป็นการเปรียบเทียบการเท่ากับระหว่างตัวแปร a และ b
ซึ่งจะให้ค่าผลลัพธ์เป็นจริงหรือเท็จ |
!= |
ไม่เท่ากับ |
ตัวอย่าง a != b เป็นการเปรียบเทียบการไม่เท่ากับระหว่างตัวแปร a และ b ซึ่งจะให้ค่าผลลัพธ์เป็นจริงหรือเท็จ |
< |
น้อยกว่า |
ตัวอย่าง a < b เป็นการเปรียบเทียบการน้อยกว่าระหว่างตัวแปร a และ b ซึ่งจะให้ค่าผลลัพธ์เป็นจริงหรือเท็จ |
<= |
น้อยกว่าหรือเท่ากับ |
ตัวอย่าง a <= b เป็นการเปรียบเทียบการน้อยกว่าหรือเท่ากับระหว่างตัวแปร a และ b ซึ่งจะให้ค่าผลลัพธ์เป็นจริงหรือเท็จ |
> |
มากกว่า |
ตัวอย่าง a > b เป็นการเปรียบเทียบการมากกว่าระหว่างตัวแปร a และ b ซึ่งจะให้ค่าผลลัพธ์เป็นจริงหรือเท็จ |
>= |
มากกว่าหรือเท่ากับ |
ตัวอย่าง a >= b เป็นการเปรียบเทียบการมากกว่าหรือเท่ากับระหว่างตัวแปร a และ b ซึ่งจะให้ค่าผลลัพธ์เป็นจริงหรือเท็จ |
ตัวอย่าง ถ้าตัวแปร i, j และ k มีชนิดข้อมูลเป็นเลขจำนวนเต็ม มีค่า 1, 2 และ 3 ตามลำดับ และจากนิพจน์ต่อไปนี้ จะได้ผลลัพธ์จากการตรวจสอบดังนี้
นิพจน์ |
ผลจากการเปรียบเทียบค่า |
ผลลัพธ์ |
i < j |
True |
1 |
(i + j) >=k |
|
1 |
(j + k) > (i + 5) |
False |
0 |
j == 2 |
False |
0 |
——————————————————————————————————————————
3. เครื่องหมายทางตรรกศาสตร์
เครื่องหมายทางตรรกศาสตร์ เป็นการเปรียบเทียบค่าความเป็นจริง หรือเท็จ ระหว่างสิ่งต่าง ๆ สองสิ่งว่าเป็นจริงหรือเท็จ ซึ่งในการเปรียบเทียบทางตรรกศาสตร์นี้นิยมนำมาใช้กับระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเลือกตัดสินใจการทำงานจากผลลัพธ์ที่เป็นจริงหรือเท็จ โดยทั่วไปแล้วเครื่องหมายทางตรรกศาสตร์จะมีอยู่ 3 เครื่องหมายด้วยกัน ดังตารางที่ 4 ถึง ตารางที่ 7
ตารางที่ 4 เครื่องหมายทางตรรกศาสตร์
เครื่องหมาย |
การเปรียบเทียบ |
ความหมายและ ตัวอย่างการใช้งาน |
&& |
และ (and) |
ตัวอย่าง (a<2) && (b>3) เปรียบเทียบระหว่าง ค่า 2 ค่าโดยถูกเชื่อมด้วย "และ" แล้วให้ผลลัพธ์ เป็นจริงหรือเท็จ |
|| |
หรือ (or) |
ตัวอย่าง (a<2) || (b>3) เปรียบเทียบระหว่าง ค่า 2 ค่าโดยถูกเชื่อมด้วย "หรือ" แล้วให้ผลลัพธ์ เป็นจริงหรือเท็จ |
! |
นิเสธ (not) |
ตัวอย่าง !a จะได้ผลลัพธ์ตรงข้ามของค่า a เช่น หากตัวแปร a มีค่าเป็นจริง !a ก็จะให้ค่าเป็นเท็จ |
ตารางที่ 5 หลักการดำเนินการด้วยเครื่องหมาย &&
ค่า A |
ค่า B |
ผลลัพธ์ของ A && B |
T |
T |
T |
T |
F |
F |
F |
T |
F |
F |
F |
F |
ตารางที่ 6 หลักการดำเนินการด้วยเครื่องหมาย ||
ค่า A |
ค่า B |
ผลลัพธ์ของ A || B |
T |
T |
T |
T |
F |
T |
F |
T |
T |
F |
F |
F |
ตารางที่ 7 หลักการดำเนินการด้วยเครื่องหมาย !
ค่า A |
ผลลัพธ์ของ !A |
T |
F |
F |
T |
ตัวอย่าง กำหนดให้ i มีชนิดข้ัอมูลเป็นจำนวนเต็ม มีค่าเท่ากับ 7 และ f มีชนิดข้อมูลเป็นเลขจำนวนจริงมีค่าเท่ากับ 5.5 ส่วน c เป็นตัวแปรชนิดตัวอักษร ที่มีค่าเท่ากับ w และต่อไปนี้เป็นนิพจน์ตรรกะในรูปแบบต่าง ๆ และผลลัพธ์ที่ได้
นิพจน์ |
ผลลัพธ์ |
(i >=6) && (c == 'w') |
1 |
(i >= 6) || (c == 119) |
1 |
(f < 11) && (i > 100) |
0 |
(c != 'p') || ((i + f) <= 10) |
1 |
f > 5 |
1 |
——————————————————————————————————————————
ลำดับความสำคัญของตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์
ลำดับที่ |
เครื่องหมาย |
ลำดับการทำงาน |
1 |
( ) |
- |
2 |
++ , -- |
ซ้ายไปขวา |
3 |
* , / , % |
ซ้ายไปขวา |
4 |
+ , - |
ซ้ายไปขวา |
5 |
< , <= , > , >= |
ซ้ายไปขวา |
6 |
== , != |
ซ้ายไปขวา |
7 |
&& |
ซ้ายไปขวา |
8 |
|| |
ซ้ายไปขวา |
9 |
= , += , -= , *= , /= , %= |
ซ้ายไปขวา |
ในการทำงานของตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์จะมีลำดับการทำงานดังนี้
1. ( ) คอมพิวเตอร์จะทำการคำนวณในวงเล็บก่อนเสมอ
2. * , / , % จากนั้นจะทำการคูณ หาร มอดูลัส เรียงจากซ้ายไปขวา เจอเครื่องหมายใด
ก่อนทำก่อน
3. + , - และทำการบวก ลบ เรียงจากซ้ายไปขวา
ตัวอย่าง กำหนดให้ตัวแปร i และ j เป็นเลขจำนวนเต็มมีค่าเท่ากับ 20 และ 8 ตามลำดับ
ผลลัพธ์จากนิพจน์นี้ค่า ans จะมีค่าเท่ากับ 8 ซึ่งเป็นไปตามลำดับการประมวลผลดังต่อไปนี้
ลำดับ |
นิพจน์ |
นิพจน์ที่ถูกประมวลผลก่อน |
1 |
ans = 2 * ((i / 5) + (4 * (j - 2)) % (j - 2) |
(i / 5), (j - 2) และ (j - 2) |
2 |
ans = 2 * (4 + (4 * (6)) % 6 ) |
4 * 6 |
3 |
ans = 2 * (4 + 24 % 6) |
24 % 6 |
4 |
ans 2 * (4 + 0) |
4 + 0 |
5 |
ans = 2 * 4 |
2 * 4 |
6 |
ans = 8 |
|
(แหล่งข้อมูล... คู่มือการเขียนโปรแกรมภาษา C ฉบับผู้เริ่มต้น / ประภาพร ช่างไม้)
——————————————————————————————————————————
|